วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556
น้ำลูกเดือย น้ำสมุนไพร
ลูกเดือยจัดเป็นพืชตระกูลข้าว เป็นเมล็ดของต้นหญ้าชนิดหนึ่ง ลักษณะกลม เปลือกแข็งสีขาวขุ่น การเลือกเมล็ดให้เลือกเมล็ดที่สมบูรณ์ ไม่มีแมลง หรือมอด
ลูกเดือยเป็นพืชที่มีวิตามินบี 1 สูง ทำให้ป้องกันโรคเหน็บชา บำรุงร่ายกาย ขับปัสสาวะ แก้อาการท้องเดิน ช่วยให้กระเพาะอาหารทำงานได้ดี ช่วยให้ผิวนุ่มนวล ป้องกันการตกกระจากแสงแดด และยังมีสารที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก คือสาร coxenolide
น้ำลูกเดือย สำหรับ 3 แก้ว
1. ลูกเดือยต้มสุก 1 ถ้วย
2. น้ำต้มสุก 3 ถ้วย
3. น้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ
4. เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
วิธีทำ
1. ต้มลูกเดือยให้สุกนุ่ม โดยล้างลูกเดือยให้สะอาด โดยลูกเดือย 1 ถ้วยใช้น้ำ 5 ถ้วย ต้มด้วยไฟกลางนานอย่างน้อย 30 นาที จนลูกเดือยสุกนุ่ม
2. ปั่นลูกเดือยกับน้ำเข้าด้วยกันให้ละลาย เทใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟอ่อน
3. ใส่น้ำตาลและเกลือเคี่ยวจนน้ำตาลละลาย พอเดือดอีกครั้ง ปิดไฟยกลง
4. พักไว้ให้เย็น แช่เย็นจนเย็นจัด รินน้ำลูกเดือยใส่แก้วดื่ม
วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556
น้ำว่านหางจระเข้ น้ำสมุนไพร
ว่านหางจระเข้เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น ในเนื้อว่านนั้นจะมีสารอะโลอินและอะโลอิซิน ซึ่งเป็นยาระบาย ช่วยป้องกันมะเร็ง สมานแผลในกระเพาะ ฆ่าเชื้อไวรัสสาเหตุของหวัด ช่วยป้องกันโรคทางเดินหายใจอักเสบ และช่วยสลายสารพิษ จึงช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงานของตับที่อักเสบได้
การสังเกตว่านหางจระเข้ที่ดีนั้น ควรมีใบอ้วนหนา ช่วงโคนใบกว้างใหญ่ ป้อมสั้น มีกระสีขาวน้อย เปลือกหนาแข็ง เนื้อวุ้นจะแข็งไม่เละ และเมื่อซื้อหรือตัดทันทีแล้ว ต้องใช้ทันที เนื่องจากสารสำคัญในเนื้อวุ้นจะลดสรรพคุณลงเรื่อยๆ
สูตรน้ำว่านหางจระเข้ จะมีให้เลือกทำ 2 แบบคือ แบบปั่นและแบบไม่ปั่น เลือกทำได้ตามต้องการ
น้ำว่านหางจระเข้
1. ใบว่านหางจระเข้ 1 ใบ
2. น้ำ 2 ถ้วย
3. น้ำตาลทรายแดง 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำน้ำว่านหางจระเข้
1. ล้างว่านหางจระเข้ให้สะอาด แล้วใช้มีดคม ๆปอกเปลือกออก ล้างหลายๆ ครั้งจนเมือกและยางสีเหลืองออกหมด
2. หั่นเป็นชิ้นบางๆ
3. เติมน้ำลงในหม้อ ใส่เนื้อว่านที่หั่นแล้วลงไป
4. ตั้งไฟกลางจนเดือดนานประมาณ 20 นาที แล้วใส่น้ำตาลทรายแดง ทิ้งไว้จนเดือดอีกครั้ง
5. ปิดไฟ ยกลง พักไว้ให้เย็น
6. รินน้ำว่านหางจระเข้ใส่แก้ว ดื่มได้
น้ำว่านหางจระเข้ปั่น
1. ใบว่านหางจระเข้ 1 ใบ
2. น้ำ 2 ถ้วย
3. น้ำตาลทรายแดง 4 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำน้ำว่านหางจระเข้ปั่น
1. ล้างว่านหางจระเข้ให้สะอาด แล้วใช้มีดคม ๆปอกเปลือกออก ล้างหลายๆ ครั้งจนเมือกและยางสีเหลืองออกหมด
2. ปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด ดื่มทันที หรือจะใส่น้ำแข็งเพื่อเพิ่มความเย็นก็ได้ค่ะ
2. หั่นเป็นชิ้นบางๆ
การสังเกตว่านหางจระเข้ที่ดีนั้น ควรมีใบอ้วนหนา ช่วงโคนใบกว้างใหญ่ ป้อมสั้น มีกระสีขาวน้อย เปลือกหนาแข็ง เนื้อวุ้นจะแข็งไม่เละ และเมื่อซื้อหรือตัดทันทีแล้ว ต้องใช้ทันที เนื่องจากสารสำคัญในเนื้อวุ้นจะลดสรรพคุณลงเรื่อยๆ
สูตรน้ำว่านหางจระเข้ จะมีให้เลือกทำ 2 แบบคือ แบบปั่นและแบบไม่ปั่น เลือกทำได้ตามต้องการ
น้ำว่านหางจระเข้
1. ใบว่านหางจระเข้ 1 ใบ
2. น้ำ 2 ถ้วย
3. น้ำตาลทรายแดง 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำน้ำว่านหางจระเข้
1. ล้างว่านหางจระเข้ให้สะอาด แล้วใช้มีดคม ๆปอกเปลือกออก ล้างหลายๆ ครั้งจนเมือกและยางสีเหลืองออกหมด
2. หั่นเป็นชิ้นบางๆ
3. เติมน้ำลงในหม้อ ใส่เนื้อว่านที่หั่นแล้วลงไป
4. ตั้งไฟกลางจนเดือดนานประมาณ 20 นาที แล้วใส่น้ำตาลทรายแดง ทิ้งไว้จนเดือดอีกครั้ง
5. ปิดไฟ ยกลง พักไว้ให้เย็น
6. รินน้ำว่านหางจระเข้ใส่แก้ว ดื่มได้
น้ำว่านหางจระเข้ปั่น
1. ใบว่านหางจระเข้ 1 ใบ
2. น้ำ 2 ถ้วย
3. น้ำตาลทรายแดง 4 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำน้ำว่านหางจระเข้ปั่น
1. ล้างว่านหางจระเข้ให้สะอาด แล้วใช้มีดคม ๆปอกเปลือกออก ล้างหลายๆ ครั้งจนเมือกและยางสีเหลืองออกหมด
2. ปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด ดื่มทันที หรือจะใส่น้ำแข็งเพื่อเพิ่มความเย็นก็ได้ค่ะ
2. หั่นเป็นชิ้นบางๆ
วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
น้ำทับทิม น้ำสมุนไพร
ทับทิมเป็นผลไม้เขตร้อน มีผลค่อนข้างกลม ผิวเรียบเปลือกเป็นมัน เปลือกค่อนข้างแข็ง ภายในแบ่งออกเป็นช่อง แต่ละช่องมีผนังสีครีมอมเหลืองกั้นระหว่างกันอยู่ในแต่ช่องจะมีเมล็ดเรียงอยู่ภายใน เมล็ดเป็นเหลี่ยมห่อหุ้มด้วยเนื้อใสสีแดงหรือสีชมพู เนื้อทับทิมมีน้ำรสหวานหรือน้ำตาลอมส้ม เมล็ดที่ดีต้องไม่มีรอยแตก รอยช้ำ หรือเน่าเสีย
เนื้อมีวิตามินซี บี 1 บี 2 และแร่ธาตุต่างๆ ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย แก้ไข ช่วยดังกระหายเนื่องมาจากพิษไข้ น้ำทิบทิมมีสารแอนติออกซิแดนท์ ช่วยต้านโคเลสเตอรอล ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ลดความดันโลหิตสูง บำรุงตับไต หัวใจ รักษาอาการท้องร่วง อาหารไม่ย่อย
น้ำทับทิมปั่น
เมล็ดทับทิม 1 ถ้วย
น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/4 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 1 ถ้วย
น้ำแข็งบดละเอียด 2 ถ้วย
วิธีทำ
ปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด รินใส่แก้ว ดื่มทันที
น้ำทับทิม
เมล็ดทับทิม 1 ถ้วย
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/4 ช้อนโต๊ะ
น้ำต้มสุกแช่เย็น 1 ถ้วย
วิธีทำ
1. ใส่เมล็ดทับทิมลงในเครื่องคั้นน้ำส้มแบบกด กดจนน้ำทับทิมออกหมด
2. ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน รินใส่แก้ว ดื่มทันที
เนื้อมีวิตามินซี บี 1 บี 2 และแร่ธาตุต่างๆ ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย แก้ไข ช่วยดังกระหายเนื่องมาจากพิษไข้ น้ำทิบทิมมีสารแอนติออกซิแดนท์ ช่วยต้านโคเลสเตอรอล ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ลดความดันโลหิตสูง บำรุงตับไต หัวใจ รักษาอาการท้องร่วง อาหารไม่ย่อย
น้ำทับทิมปั่น
เมล็ดทับทิม 1 ถ้วย
น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/4 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 1 ถ้วย
น้ำแข็งบดละเอียด 2 ถ้วย
วิธีทำ
ปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด รินใส่แก้ว ดื่มทันที
น้ำทับทิม
เมล็ดทับทิม 1 ถ้วย
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/4 ช้อนโต๊ะ
น้ำต้มสุกแช่เย็น 1 ถ้วย
วิธีทำ
1. ใส่เมล็ดทับทิมลงในเครื่องคั้นน้ำส้มแบบกด กดจนน้ำทับทิมออกหมด
2. ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน รินใส่แก้ว ดื่มทันที
วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
น้ำแตงกวากับบีทรู้ต
น้ำแตงกวากับบีทรู้ต
ส่วนผสม
แตงกวาขนาดกลาง 100 กรัม
บีตรู้ต 100 กรัม
วิธีทำ
1. ล้างแตงกวาและบีตรู้ตให้สะอาด หั่นเป็นท่อนเล็ก ๆ แช่ในตู้เย็นให้เย็นจัดประมาณหนึ่งชั่วโมง
2. ใส่แตงกวาในเครื่องแยกกาก ตามด้วยบีตรู้ต
3. เทใส่แก้ว ดื่มน้ำแตงกวากับบีทรู้ตสด ๆ ทันที หรือเติมน้ำแข็ง 2-3 ก้อนก่อนดื่ม
คุณค่าทางโภชนาการของน้ำแตงกวากับบีทรู้ต
* พลังงาน 57 กิโลแคลอรี
* คาร์โบไฮเดรต 10.5 กรัม
* เบตาแคโรทีน 7034 ไมโครกรัม
*วิตามินเอ 1173 ไมโครกรัม
*วิตามินซี 23 มิลลิกรัม
*แคลเซียม 85 ไมโครกรัม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)