วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2554

น้ำสมุนไพร น้ำดอกดาหลา

ดาหลาเป็นไม้ดอกไม้ประดับสีชมพูอมแดงดอกใหญ่ ก้านกลมยาวกว่าครึ่งเมตร เป็นพืชตระกูลเดียวกับขิงข่า ออกดอกทั้งปี

ดอกตูมและหน่ออ่อนนำไปปรุงอาหาร ได้รสชาติเผ็ดซ่าอ่อนๆ กลิ่นหอมเด่นเป็นเอกลักษณ์ ดอกดาหลานั้นมีสรรพคุณทางยา แก้โรคผิวหนัง แก้ลมพิษ และมีฤทธิ์ในการขับลม

ส่วนผสมของน้ำดอกดาหลา น้ำสมุนไพร
ดอกดาหลาดอกบานหั่นชิ้นเล็ก 3 ดอก
มะนาวหั่นซีก 1 ชิ้น
น้ำต้มสุกแช่เย็น 1 1/2 ถ้วย
นำเชื่อม 3-4 ช้อนโต๊ะ
น้ำแข็งชนิดก้อน

วิธีทำน้ำดอกดาหลา
1.ใส่ดอกดาหลาลงในโถปั่นบีบน้ำมะนาว เติมน้ำ ปิดฝา ปั่นด้วยความเร็วสูงจนละเอียด
2. กรองดอกดาหลาที่ปั่นด้วยกระชอนตาถี่หรือผ้าขาวบางสะอาด กรองเอาแต่น้ำ
3. เติมน้ำเชื่อมในน้ำดอกดาหลา คนให้ทั่ว รินใส่แก้วเติมน้ำแข็ง ดื่มทันที

น้ำแห้ว เครื่องดื่มสมุนไพร

แห้วเป็นพืชสมุนไพรตระกูลกก อุดมไปด้วยสารอาหารประเภทต่างๆ มีวิตามินและเกลือแร่ ช่วยต่อต้านแบคทีเรีย ด้วยสาร puchin นอกจากนี้แห้วยังช่วยดับกระหาย คลายร้อนและขับน้ำนมได้อย่างดี

ส่วนผสมของน้ำแห้ว เครื่องดื่่มสมุนไพร
น้ำ 3 ถ้วย
แห้วปอกเปลือกหั่นชิ้น 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
น้ำแข็ง ชนิดก้อน


วิธีทำน้ำแห้ว เครื่องดื่่มสมุนไพร
1 ต้มน้ำในหม้อด้วยไฟกลางให้เดือด ใส่แห้วลงต้มนานประมาณ 20 นาที ใส่น้ำตาล
เมื่อน้ำตาลละลาย ปิดไฟ ยกลง พักไว้ให้เย็น
2.  เวลาจะดื่มรินน้ำแห้วใส่แก้วน้ำแข็ง ใส่เนื้อแห้ว ดื่มเย็นๆ

วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2554

น้ำผักกาดขาว

ผักกาดขาวมีประโยชน์อย่างที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง ช่วยย่อยอาหาร ขับปัสสาวะ มีโฟเลทสูง

ส่วนผสมของน้ำผักกาดขาว
ผักกาดขาว 200 กรัม
แอปเปิ้ลแดง 50 กรัม
น้ำสับปะรด ½  ถ้วย
น้ำแข็งก้อน

วิธีทำน้ำผักกาดขาว
1. แกะผักกาดขาวเป็นใบ ๆ ล้างให้สะอาด
2 หั่นแอปเปิ้ลแดงเป็นชิ้นๆ เฉือนแกนกลางออก
3. ใส่ผักกาดแล้วตามด้วยแอปเปิ้ลลงในเครื่องแยกกาก
4 เทใส่แก้ว ใส่น้ำสับปะรดลงไปผสม คนให้เข้ากันก่อนดื่มเติมน้ำแข็งลงไปสัก 4-5 ก้อน จะทำให้สดชื่นยิ่งขึ้น ดื่มทันที

คุณค่าทางโภชนาการของน้ำผักกาดขาว
พลังงาน 126 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรด 25.3 กรัม
วิตามินเอ 6101.5 ไมโครกรัม
วิตามินซี 151 มิลลิกรัม
แคลเชียม 250 ไมโครกรัม

วันพุธที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2554

น้ำแตงกวา

แตงกวา

แตงกวาเป็นพืชจำพวกไม้เถาไม้เลื้อย มีหลายพันธุ์ที่รู้จัก แตงกวา แตงร้านลำต้นมีสีเขียวเป็นเหลี่ยมใบมีขนสั้นใบเดี่ยว ออกดอกตามซอกใบ ดอกสีเหลือง ผลกลมยาว สีผลมีสีเขียวปนขาว ถ้าผลสุกจะมีสีเหลือง แตงกวานั้นประกอบด้วยวิตามินเอ แคลเซียม วิตามินบีรวม วิตามินซี  เหล็ก และเกลือแร่ต่างๆ  น้ำแตงกวารักษาโรคผิวหนัง ลดอาการอักเสบของผิวหนัง เมล็ดเป็นยาขับพยาธิ ในผลแตงกวามีเอนไซม์ ช่วยย่อยโปรตีน และมีสารกลิ่นหอมที่ละลายไต้ในแอลกอฮอล์ ใช้ผสมในน้ำหอม และเครื่องสำอาง มีกรดอะมิโนในปริมาณสูง ผลนำมาประกอบอาหารได้ทั้งผัด รับประทานสด หั่นผลสดบางๆ บำรุงผิวหน้า  การเลือกแตงกวาให้เลือกแตงกวาที่สด ผิวไม่เหี่ยว เนื้อแน่น ไส้น้อย เปลือกจะมีสีเขียวยาวเป็นริ้ว ล้างทั้งเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้น

ส่วนผสมของน้ำแตงกวา
น้ำแตงกวา
แตงกวา 4 ผล
น้ำเชื่อม 1 ถ้วยตวง
น้ำต้มสุก 2 ถ้วยตวง
เกลือ 1/2 ช้อนชา

วิธีทำน้ำแตงกวา
1ล้างแตงกวาด้วยน้ำให้สะอาด  เอาเมล็ดออกหั่นเป็นชิ้นใส่โถปั่นเติมน้ำสุก น้ำเชื่อม เกลือป่น ปั่นให้ละเอียด ชิม รสตามชอบ เวลาเสิร์ฟ
2 เอาน้ำแข็งทุบใส่แก้วรินน้ำแตงกวาใส่ รสหวาน เย็นชื่นใจ

วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554

น้ำทับทิม

น้ำทับทิม

ทับทิมเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง มีกิ่งก้านสาขามาก มีหนาม
เล็กน้อยตามต้นและกิ่งใบมีลักษณะเล็กเรียว ดอกสีส้มสด กลีบดอก 6 กลีบ เมล็ดรูปเหลี่ยมเมื่อยังอ่อนจะมีสีขาว รสเปรี้ยวฝาด เมื่อแก่จะมีสีแดงสด รสหวาน

ส่วนผสมของน้ำทับทิม
เมล็ดทับทิม 2 ถ้วยตวง
น้ำเชื่อม 1 ถ้วยตวง
น้ำต้มสุก 4 ถ้วยตวง

วิธีทำน้ำทับทิม
1.เอาเมล็ดทับทิมขยำกับน้ำต้ม ให้เนื้อออกจากเมล็ดมากที่สุด
2. กรองด้วยผ้าขาวบางใส่หม้อตั้งไฟ 5 นาที ยกลงใส่น้ำเชื่อมและเกลือคนให้เข้ากัน ชิมรสให้ออกเปรี้ยวหวาน รินใส่ขวดที่ลวกน้ำร้อนแล้วปิดฝานำไปแช่เย็น
3.  ได้น้ำทับทิมรสอร่อย เวลาเสิร์ฟให้น้ำแข็งลงในแก้ว รินน้ำทับทิมใส่ดื่มแล้วชื่นใจ

ประโยชน์และคุณค่าของน้ำทับทิม
ทับทิมมีหลายชนิด เปลือกหุ้มผลแก้เจ็บคอ ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้บิด ลำไส้อักเสบ แก้ท้องร่วงและแผลร้อนใน ปากเป็นแผล ลิ้นเป็น แผล